วันจันทร์, 17 พฤศจิกายน 2568

ประวัติและความสำคัญของ The Satanic Temple (TST)

 

ซึ่งปัจจุบันได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นศาสนาในสหรัฐอเมริกา พร้อมได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย แม้ชื่อขององค์กรจะเชื่อมโยงกับ “ซาตาน” แต่สิ่งที่พวกเขายืนหยัดและต่อสู้นั้นกลับเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน เสรีภาพส่วนบุคคล และการต่อต้านการครอบงำของศาสนาในชีวิตประจำวัน
ประวัติการก่อตั้ง The Satanic Temple
The Satanic Temple ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดย Lucien Greaves และ Malcolm Jarry ในสหรัฐอเมริกา TST ไม่ได้มุ่งเน้นการบูชาซาตานในความหมายดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับการบูชาปีศาจหรือไสยศาสตร์ แต่มันเป็นองค์กรที่สร้างขึ้นจากแนวคิดทางปรัชญาและการเมืองที่เน้นการเคารพเสรีภาพของปัจเจกชน และการยืนยันว่าศาสนาควรถูกแยกออกจากรัฐบาลอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในสังคมที่ศาสนาคริสต์อนุรักษ์นิยมมีอิทธิพลต่อการเมืองและนโยบายของรัฐ
ซาตานในฐานะสัญลักษณ์
สำหรับ TST “ซาตาน” ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านอำนาจ ความแสวงหาความรู้ และการต่อสู้กับการกดขี่ทางสังคมและศาสนา ซาตานในที่นี้คือผู้แสวงหาความรู้ที่ท้าทายอำนาจและความเชื่อดั้งเดิม เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงการเสริมสร้างเสรีภาพส่วนบุคคลและความรับผิดชอบต่อสังคม
เป้าหมายและหลักการของ The Satanic Temple
หนึ่งในเป้าหมายหลักของ TST คือการส่งเสริมเสรีภาพส่วนบุคคล ความเท่าเทียมกันทางสิทธิมนุษยชน และการปกป้องการแยกศาสนาออกจากรัฐ องค์กรนี้ใช้การเคลื่อนไหวทางกฎหมายและสังคมเพื่อต่อต้านอิทธิพลของศาสนาในภาครัฐ โดยมุ่งหวังให้รัฐบาลเคารพเสรีภาพของพลเมืองทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาหรือไม่
หลักการที่ TST ยึดถือประกอบไปด้วย 7 ข้อที่เรียกว่า “The Seven Tenets” ซึ่งเน้นการแสดงความเมตตาและความเข้าใจต่อผู้อื่น การเคารพสิทธิในการควบคุมร่างกายของตัวเอง การพิจารณาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมที่มีความรับผิดชอบ
การเคลื่อนไหวและบทบาททางสังคม
TST มักใช้วิธีการเคลื่อนไหวเพื่อท้าทายการเข้ามามีบทบาทของศาสนาในพื้นที่สาธารณะ เช่น การเรียกร้องสิทธิในการติดตั้งรูปปั้น Baphomet คู่กับรูปปั้น Ten Commandments ในสถานที่สาธารณะ นอกจากนี้ TST ยังสนับสนุนสิทธิสตรี โดยเฉพาะในเรื่องสิทธิในการทำแท้ง และสิทธิของกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมและเสรีภาพส่วนบุคคล
การเปรียบเทียบกับ Church of Satan
แม้ว่า TST จะมีชื่อที่คล้ายคลึงกับ Church of Satan ซึ่งก่อตั้งโดย Anton LaVey ในปี 1966 แต่ทั้งสององค์กรมีแนวคิดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน Church of Satan มุ่งเน้นการส่งเสริมปรัชญาแห่งซาตานในฐานะเครื่องมือในการพัฒนาตนเองและการยอมรับความเป็นจริงของธรรมชาติของมนุษย์ ในขณะที่ The Satanic Temple เน้นไปที่การต่อสู้ทางกฎหมายและการส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ
บางคนใน TST อาจยังยึดถือ “กฎบาป 9 ประการ” ของ Church of Satan ซึ่งก่อตั้งก่อน TST 46 ปี แต่ก็ไม่ใช่กฎที่บังคับใช้กับทุกคน การที่บางคนยังคงใช้กฎของ Church of Satan นั้นเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล และ TST เองก็ไม่ได้เชื่อในนรกหรือสวรรค์ จึงไม่ได้มองว่าการทำผิดกฎเหล่านั้นจะมีการลงโทษในภายหลัง
การเข้าร่วมและการสำรวจตัวเอง
สำหรับคนที่สนใจเข้าร่วม TST ควรเริ่มต้นด้วยการศึกษาและเข้าใจ The Seven Tenets ว่าตรงกับแนวคิดและค่านิยมของตนเองหรือไม่ สิ่งสำคัญคือการสำรวจตัวเองว่าเห็นด้วยกับหลักการเหล่านี้หรือไม่ เนื่องจากการเข้าร่วม TST ไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนแปลงความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นเรื่องของการยอมรับในสิทธิเสรีภาพและความเสมอภาคของมนุษย์
ส่งท้าย
The Satanic Temple ไม่ใช่กลุ่มที่เน้นการบูชาซาตานหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่เป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพส่วนบุคคล โดยใช้ซาตานเป็นสัญลักษณ์ในการตั้งคำถามต่ออำนาจและการกดขี่ พวกเขามีบทบาทสำคัญในการรักษาหลักการของการแยกศาสนาออกจากรัฐและการเคลื่อนไหวทางสังคมเพื่อต่อสู้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม